พระไตรปิฎก

พระไตรปิฎก คือ ตำราหรือคัมภีร์ที่บันทึกหรือจารึกคำสอนขององค์พระสัมมาพระพุทธเจ้าที่ถูกนำมาจัดไว้เป็นหมวดหมู่ต่างๆ โดยประกอบด้วยเนื้อหาใจความหลักๆ อยู่ 3 หมวดใหญ่ๆ ได้แก่ พระวินัยปิฎก, พระสุตตันตปิฎก และพระอภิธรรมปิฎก โดยเป็นธรรมะที่พระองค์ได้ทรงแสดงไว้ตลอด 45 พรรษา ที่ทรงได้แสดงพระธรรมเทศนาให้แก่ทุกคนโดยไม่เกี่ยงว่าคนนั้นคือผู้ใดอยู่วรรณไหน หรือยากดีมีจนเช่นไร และสืบทอดมายังพระสาวกตั้งแต่ครั้งพุทธกาลจวบจนกระทั่งปัจจุบัน ซึ่งเราคนไทยต่างคุ้นเคยหรือเคยได้ยินชื่อพระไตรปิฎกกันมาแล้วตั้งแต่ตอนเรียนวิชาพระพุทธศาสนาในชั้นประถมฯ หรือมัธยมฯ โดยพระไตรปิฎกนี้เรียกว่ามีความสำคัญแก่คนไทยและชาวพุทธอย่างยิ่งเลยทีเดียว



โดยคำว่า พระไตรปิฎก มีความหมายว่า 3 คัมภีร์ ซึ่งคำว่า พระ เป็นคำที่ยกย่องหรือแสดงความเคารพ ส่วนคำว่า ไตรี แปลตรงตัวว่า สาม และคำว่า ปิฎก แปลว่า ตำรา, คัมภีร์, กระจาด หรือตะกร้า โดยรวมๆ ก็หมายถึงเป็นการรวมคำสอนขององค์พระพุทธเจ้าเอาไว้เป็นหมวดหมู่เพื่อไม่ให้กระจัดกระจาย เหมือนการนำตะกร้าหรือกระจาดมารองไว้เป็นภาชนะนั่นเอง

หมวดหมู่โครงสร้างพระไตรปิฎกมี 3 หมวด ได้แก่
1. พระวินัยปิฎก เป็นพระวินัยสิกขาบทต่างๆ ของทั้งพระภิกษุและภิกษุณี
2. พระสุตตันตปิฎก เป็นพระสูตรซึ่งเป็นพระธรรมเทศนาของพระพุทธเจ้าและพระอรหันตสาวก ที่ประมวลออกมาเป็นเรื่องๆ โดยมีเรื่องราวประกอบ ตลอดจนภาษิต และชาดก ที่ทรงได้แสดงธรรมแก่บุคคลต่างๆ ทุกชนชั้น โดยไม่มีการแบ่งชั้นวรรณะใดๆ ซึ่งมีทั้งที่เป็นร้อยแก้วและร้อยกรอง
3. พระอภิธรรมปิฎก เป็นพระธรรมขั้นสูงที่ประกอบด้วยหลักวิชาธรรมะล้วนๆ โดยไม่มีการอ้างอิงถึงเหตุการณ์และบุคคลใดๆ โดยแบ่งออกเป็นหมวดๆ ข้อๆ

ซึ่งพระไตรปิฎกนี้นอกจากจะมีความสำคัญต่อคนไทยและชาวพุทธทั้งหลายแล้ว ยังมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการมีอยู่ของพระพุทธศาสนาอีกด้วย เรียกว่าเป็นสิ่งที่เราทุกคนควรสงวนและรักษาไว้เพื่อสืบต่อให้ลูกหลานเราได้เห็นและศึกษาถึงแก่นแท้ของพระธรรมคำสอนอย่างแท้จริง และเพื่อให้พุทธศาสนาคงอยู่ต่อไปได้อีกตราบนานเท่านาน และการนำธรรมะของพุทธองค์มาปฏิบัติย่อมทำให้เราได้รับทั้งพระธรรมคำสอนและคุณธรรมอย่างเต็มเปี่ยมในการดำเนินชีวิตต่อไปจวบจนถึงวันสิ้นลมหายใจนั่นเอง

ขอขอบคุณ : www.เกร็ดความรู้.net

ป้ายกำกับ